ผบช.น.ประชุมตรวจสอบกรณีทุจริตสอบเข้า รร.นายสิบตำรวจ มีมติสั่งยกเลิกการสอบทั้งหมด

"ผบช.น.ประชุมตรวจสอบกรณีทุจริตสอบเข้า รร.นายสิบตำรวจ มีมติสั่งยกเลิกการสอบทั้งหมด"

"เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 ม.ค.2560 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น.ดูแลงานกฎหมายและคดี พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รรท.รอง ผบช.น.ดูแลงานจเรตำรวจ พล.ต.ต.พรชัย ไทยแท้ รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รรท.ผบก.อก.บช.น. รองผบก.อก.บช.น. พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน ผกก.ศฝร.บก.อก.บช.น.ฐานะเลขานุการคณะกรรมการดำเนินการรับสมัคร กองคดีปกครองและคดีแพ่ง กองการสอบ กองทะเบียนพล กองอัตรากำลัง สำนักงานงบประมาณและการเงิน แพทย์รพ.ตำรวจ

ร่วมประชุมคณะกรรมการดำเนินการรับสมัครและคัดเลือกการรับสมัครและคัดเลือกบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิการศึกษา ม.6 ปวช. หรือเทียบเท่า เพื่อบรรจุเป็นนายสิบตำรวจประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ภายหลังที่พบว่า มีการกระทำทุจริตในการสอบดังกล่าวเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง โดยเรียนอยู่คณะแพทย์ศาสตร์ ทันตแพทย์ และวิศวกรรมศาสตร์ โดยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง

พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ภายในที่ประชุมเปิดโอกาสให้คณะกรรมการทุกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นโดยมีการลงมตินับคะแนนจาก 2 ความเห็นจะยกเลิกทั้งหมดหรือยกเลิกเป็นบางส่วนในกระบวนการขั้นตอนการคัดเลือก สุดท้ายได้มีข้อสรุปลงมติให้มีการยกเลิกกระบวนการขั้นตอนการคัดเลือกทั้งหมด โดยอำนาจในการยกเลิกนั้น เป็นของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ซึ่งทางฝ่ายเลขานุการ พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน ผกก.ศฝร.บก.อก.บช.น. จะเป็นผู้ดำเนินการสรุปผลการประชุมและเร่งดำเนินการพิจารณาเสนอข้อสรุป ส่วนที่ 2 ในเรื่องของการดำเนินคดีอาญา จากการตรวจสอบพบว่า มีมือปืนรับจ้างหรือผู้ที่ถูกว่าจ้างให้เข้ามาทำข้อสอบ ขออนุญาตไม่เปิดเผยว่าเป็นพวกไหน เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบ อีกฝ่ายหนึ่งคือผู้สมัคร การดำเนินคดีกับพวกมือปืนรับจ้างนั้น ความผิดพื้นฐานตามป.อาญา มาตรา 137 ข้อหาแจ้งความเท็จอัตราโทษจำคุกไม่เกิด 6 เดือน พวกนี้ถือว่ากรอกข้อมูลในระบบราชการอันเป็นเท็จ ในข้อมูลการสมัครเข้าสอบคัดเลือกผ่านทางอินเตอร์เน็ต จะการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ.2550ฐานความผิดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและประชาชน มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิด 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท

"ส่วนกรณีพวกที่มาสมัครพิจารณาแล้วเป็นความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจรตามป.อาญาม.209 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.อุเทน ฐานะผกก.ศฟร.บก.อก.บช.น. รวบรวมพยานหลักฐานไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษที่สน.หัวหมาก ภายในช่วงเสาร์-อาทิตย์ส่วนที่ 3 การดำเนินการทางวินัยนั้น จากการตรวจสอบเชื่อว่าน่าจะมีข้าราชการผู้หนึ่งผู้ใดเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยก็จะต้องมีการพิจารณาโทษทางวินัย ซึ่งในเรื่องนี้ในที่ประชุมได้มอบหมายให้พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รรท.รองผบช.น.ดูแลงานจเรตำรวจ ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อให้ได้ข้อสรุปพิจารณาดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการที่กระทำผิดกับกรณีที่มีการทุจริตต่อไป" ผบช.น.กล่าว

เมื่อถามถึงความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้กระทำความผิดนั้น พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ยืนยันว่ามีแน่นอนในรายงานนำเสนอผบ.ตร. จะมีการนำเสนอข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนจะเกี่ยวกับกองบัญชาการอื่นด้วยหรือไม่ ก็จะพิจารณานำเสนอความเห็น ส่วนจำนวนทั้งหมด 413 คนที่มีการตรวจสอบพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ความผิดทั้งหมดได้แบ่งกลุ่มเป็นสีดำและสีเทายังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนกลุ่มสีขาวเป็นกลุ่มที่ยังไม่พบการกระทำความผิดในขณะนี้ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเสมอภาค คนเดียว 3 คน เราเป็นราชการเอาง่ายเข้าว่า โมเมเอาเข้าไป ไม่ได้ เพราะเรามีหน้าที่ต้องทำและมีหน้าที่ต้องพิสูจน์ทราบ แม้เป็นภาระเพิ่มมากขึ้นก็ตาม ทุกอย่างจะต้องอยู่บนพื้นฐานถูกต้องชอบธรรม ซึ่งจะต้องดำเนินการตรวจสอบให้ชัดเจน

เมื่อถามถึงกรณีผู้ไม่เกี่ยวข้องนั้น พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า เราต้องมีคำตอบยืนยันอาจจะถูกใจไม่ถูกใจแต่ต้องเป็นไปตามหลักการและเหตุผล ส่วนที่มานั้น สังเกตจากคะแนนต่ำสุดสูงสุดและดูจากข้อสอบ ไม่ขอลงลึกในรายละเอียด โดยเห็นข้อสงสัยจึงทำการตรวจสอบจึงพบว่ามีการกระทำไปในทางที่ไม่ชอบ ส่วนมีผู้รับสารภาพแล้วกี่คน ยังไม่ขอบอกเป็นตัวเลขอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบ ถามว่าพบแล้วหรือไม่ว่าข้าราชการหน่วยอื่นไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบต้องทำให้ครอบคลุม ขอให้ชัดเจนมีหลักฐานเชิงประจักษ์แบบดิ้นไม่หลุด ขออนุมัติศาลออกหมายจับและจับกุม ตราบใดที่ยังเป็นเพียงแค่การพาดพิงตามกฎหมายอาญาไม่รับฟังคำซักทอดผู้ต้อง ส่วนกลุ่มผู้ต้องสงสัยทั้งหมดยืนยันว่าจะต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด"

เครดิต : nationtv.tv